กรุงเทพฯ/วันนี้ (30 ก.ย. 64) เวลา 10.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) รับหนังสือข้อเสนอเรื่องการพัฒนาเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นระบบบำนาญประชาชน จากตัวแทนเครือข่ายสลัม 4 ภาค และเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ โดยมีผู้ร่วมชุมนุมเรียกร้อง กว่า 500 คน ณ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กทม.
นายสมศักดิ์ บุญมาเลิศ ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค กล่าวว่า เครือข่ายฯ ได้ยื่นข้อสนอดังนี้ 1.ให้รัฐบาลยกระดับการพัฒนานโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นระบบบำนาญแห่งชาติ เพื่อเป็นประกันรายได้พื้นฐาน และเป็นสิทธิสวัสดิการถ้วนหน้าขั้นพื้นฐานของประชาชน อายุ 60 ปี ขึ้นไป โดยใช้อัตรา ไม่ต่ำกว่าเส้นความจน หรือประมาณ 3,000 บาท 2.อัตราเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปัจจุบัน ไม่สอดคล้องเกณฑ์รายได้ที่เพียงพอแก่การยังชีพ ต่ำกว่าเส้นความยากจน 3-5 เท่า จึงเสนอให้ปรับเพิ่มเป็น 3,000 บาทต่อเดือน โดยคิดจากฐานเส้นความยากจน ระยะแรกอาจยังไม่สามารถปรับแบบก้าวกระโดดแต่อย่างน้อยควรจะปรับเป็น 1,500-2,000 บาทต่อเดือนให้มีความก้าวหน้าจากเดิมที่เป็นขั้นบันไดเพียง 600-1,000 บาทต่อเดือน 3.ให้ กผส. นำ ร่าง พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติ พ.ศ…. ฉบับประชาชนมาพิจารณา เพื่อให้เกิดการพัฒนานโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นกฎหมายบำนาญประชาชน 4.ให้คณะอนุกรรมการกำหนดนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (ใหม่) ยกเลิกแนวทางการกำหนดการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะให้จัดสรรเฉพาะกลุ่มคนยากจน และ 5.ให้เปิดเผยการประชุม กผส. และคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง ให้สาธารณชนได้รับทราบ
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลพร้อมรับฟังความเห็นของประชาชนทุกท่าน ซึ่งเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ตนได้ลงมารับหนังสือกับตัวแทนเครือข่ายสลัม 4 ภาค และได้เสนอไปว่าให้นำผลดี ผลเสีย ผลกระทบของแต่ละข้อมาเสนอในวันนี้ โดยตนจะนำไปอ่านและส่งให้กับคณะอนุกรรมการกำหนดนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่กำลังศึกษาเรื่องนี้ ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ต้องนำไปเสนอยต่อคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ จากนั้น จะเสนอความเห็นไปยังคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป หากจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงกฎหมายจะต้องเสนอกลับเข้าไปยังสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกระบวนการนี้ไม่สามารถตัดสินใจเพียงผู้เดียวได้ สำหรับวันนี้ทุกคนได้มายื่นหนังสือแล้ว หากตนมีข้อสงสัยหรือหารือเพิ่มเติม จะขอเรียนเชิญท่านมาพูดคุยกัน
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า บ้านเมือง 10 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงไป ทั้งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สภาวะสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ฉะนั้น ผลกระทบมีทั้งบวกและลบ เราจะนำมาประกอบการพิจารณา เพื่อให้เกิดความทั่วถึงและเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ตนยินดีและพร้อมรับฟังความเห็นของทุกคน เราจะคุยกันอย่างสันติและเป็นมิตร เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นให้สร้างสรรค์กับส่วนรวม และขอย้ำว่าการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ปัจจุบันยังคงจ่ายตามเกณฑ์เดิม ทุกคนจะได้รับเหมือนเดิมจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ จะด้วยกฎหมายหรือมติคณะรัฐมนตรีก็ตาม จะต้องมีขั้นตอน ทั้งนี้ อยากเรียนให้ทราบว่า วันนี้ไม่มีการตัดสิทธิใครทั้งสิ้นที่เคยได้รับอยู่เดิม ตามที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายไว้ว่า ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไร คนที่เคยได้สิทธิเดิมก็ขอให้ได้สิทธิจนกระทั่งเสียชีวิต
เนืองนิช ชิดนอก ที่ปรึกษาเครือข่ายสลัม 4 ภาค ระบุว่า ที่ผ่านมาประชาชนได้สะท้อนปัญหา และมีข้อเสนอถึงหน่วยงานมาตลอด แต่ไม่เห็นความคืบหน้า แต่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนนุษย์ หรือ พม. ไม่มีวี่แวจะรับข้อเสนอต่างๆไปพิจารณา
ภาพบรรยกาศผู้ชุมชนที่ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์