ตําบลหนองใหญ่ อําเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี เดิมเป็นสุขาภิบาลหนองใหญ่ ต่อมาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2542 ได้มีการเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลโดยมีพระราชกฤษฎีการวมองค์การบริหารส่วนตำบลหนองใหญ่กับเทศบาลตำบลหนองใหญ่ และกำหนดเขตเทศบาลตำบลหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2543 มีพื้นที่ความรับผิดชอบทั้งสิ้น 108 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของตำบลหนองใหญ่
นางวันดร นิจนิรันดร์กุล หรือ ป้าดร ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลหนองใหญ่ เล่าการขับเคลื่อนงานโครงการบ้านพอเพียงให้ฟังว่า โครงการบ้านพอเพียงเริ่มต้นขึ้นในปี 2561 โดยสภาองค์กรชุมชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ว่าจะมีโครงการดังกล่าวลงมาที่พื้นที่ หลังจากนั้นสภาองค์กรชุมชนจึงได้จัดประชุมหารือชี้แจงรายละเอียดโครงการบ้านพอเพียงให้คณะกรรมการและกำนันผู้ใหญ่บ้านให้รับทราบโดยทั่วกัน พร้อมทั้งตั้งคณะทำงานของแต่ละหมู่บ้านเพื่อรับผิดชอบการขับเคลื่อนงานโครงการนี้ ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่จะลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเป็นอยู่ของคนในชุมชน ของตนเป็นประจำทุกเดือนอยู่แล้ว จึงขอให้ สำรวจข้อมูลผู้เดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยในหมู่บ้านขอตนเองด้วยเพื่อค้นหาผู้เดือดร้อนเข้าร่วมโครงการ โดยมีเงื่อนไขว่า หากเข้ามาเป็นสมาชิกโครงการบ้านพอเพียงแล้ว จะต้องเข้าร่วมกองทุนบ้านพอเพียงด้วยถึงจะเป็นผู้มีสิทธิได้รับเลือกให้ได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งในการคัดเลือกลำดับผู้เดือดที่จะได้รับการช่วยเหลือนั้น คณะกรรมการจะคัดเลือกจากครอบครัวที่เดือดร้อนที่สุดก่อน โดยหลังจากได้รายชื่อและลำดับผู้เดือดร้อนแล้วนั้นสภาองค์กรชุมชนจึงจัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจรายละเอียดโครงการ โดยผู้เดือดร้อนจะได้รับงบประมาณช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านหลังละ 18,000 บาท โดยสามารถใช้จ่ายได้เฉพาะค่าวัสดุอุปกรณ์เท่านั้น ในส่วนของค่าแรง หรือค่าใช้จ่ายส่วนเกิน ผู้เดือดร้อนจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง และหากบ้านไหนที่ยังมีงบเหลือนั้น ให้นำส่วนต่างที่เหลือไปสมทบเพื่อช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านผู้เดือดร้อนหลังอื่นๆ ที่รอการซ่อมแซมในลำดับถัดไป แต่การช่วยเหลือดังกล่าวนั้น จะต้องผ่านมติที่จากที่ประชุมว่าเสียก่อน หลังจากที่ทำความใจร่วมกันแล้วนั้นจึงจะเข้าสู่กระบวนการซ่อมแซม โดยจะมีกระบวนการติดตาม จากคณะทำงานบ้านพอเพียงของแต่ละหมู่อำนวยความสะดวกจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ในการซ่อมแซมบ้าน พร้อมทั้งดูแลความเรียบร้อยระหว่างดำเนินการซ่อมแซมอีกด้วย ทั้งนี้ตำบลหนองใหญ่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศํยในตำบลผ่านโครงการบ้านพอเพียง มาเป็นเวลากว่า 2 ปี แล้ว และสามารถพัฒนาซ่อมแซมบ้านผู้เดือดร้อนไปแล้วจำนวน 34 หลังคาเรือน โดยในในปี 2561 ดำเนินการซ่อมแซมบ้าน จำนวน12 หลัง และปี 2562 ดำเนินการซ่อมแซมบ้าน จำนวน 22 หลัง
นอกโครงการบ้านพอเพียงนี้ ตำบลยังมีการขับเคลื่อนงานกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลหนองใหญ่อีกด้วย โดยกองทุนนี้ใครจะเข้าร่วมหรือไม่ก็ได้ ป้าดร เล่าว่า “ป้าทำมาเป็น 10 ปีแล้วนะ ” โดยการสมัครสมาชิกนั้นจะต้องเสียค่าแรกเข้า 20 บาท เพื่อนำไปบริหารกันภายในคณะกรรมการกองทุน และในส่วนของเดือนแรกนั้นต้องออม 50 บาทส่วนเดือนต่อๆ ไปก็เดือนละ 30 บาทหรือคิดเป็นวันก็จะเท่ากับวันละบาท โดยเงินในกองทุนนี้จะเป็นเงินสำรองที่ไว้สำหรับช่วยเหลือสมาชิก เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าทำศพ หรือหากเป็นผู้สูงอายุที่อายุ 70 ปี และออมเงินมาเป็นเวลา 10 ปี แล้วจะได้รับเงิน เดือนละ 200 บาท เป็นเบี้ยยังชีพ ซึ่งป้าดร บอกว่า “ให้แกใช้ในวันที่แกยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าไปให้ไปช่วยในวันที่เขาไม่มีโอกาสได้ใช้ “ดังนั้นเลยทำให้ทางกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลหนองใหญ่หันมาปรับเปลี่ยนสวัสดิการลดเงินค่าทำศพแล้วไปเพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุให้สอดคล้องกับความต้องการของ
คุณยายสมจิต พุ่มประทุม อายุ 66 ปี คุณยายเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว คือ โรคไต ต้องทำการล้างไตและการรักษาตามอาการของโรค จึงทำให้บ้านของยายนั้นต้องมีความสะอาด มีสุขอนามัยที่ดี ก่อนได้รับการช่วยเหลือบ้านของคุณยายมีความแออัด และห้องน้ำผุพัง จึงได้ทำการซ่อมแซมในเรื่องของห้องน้ำ สร้างห้องน้ำขึ้นใหม่ พร้อมกับกั้นห้องเพิ่มเติม เพราะคุณยายอาศัยอยู่กับลูกชาย จึงแยกพื้นที่ของส่วนคุณยายและลูกออกกันอย่างชัดเจน และเมื่อได้รับการช่วยเหลือแล้วการเป็นอยู่ของคุณยายก็ดีขึ้นกว่าเดิม
ยุภา จันศรีทอง อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 305 ม.5 ต.หนองใหญ่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ภายในบ้านนั้นอยู่รวมกันทั้งหมด 6 คน ลักษณะบ้านมีความแออัดเนื่องจากคนอาศัยอยู่เยอะแต่มีพื้นที่น้อยจึงต้องการจะขยับขยายพื้นที่เพิ่ม โดยจะนำงบมาสร้างบ้านอีกหลังในพื้นที่ข้างกัน แต่เมื่อได้รับงบบ้านหลังนี้ตนจึงำไปซ่อมแซมหลังคาบ้านที่รั่วซึม อย่างไรก็ตามแม้ทางคุณยุภาจะไม่ได้รับการช่วยเหลือตามที่ต้องการก็ตาม แต่การช่วยเหลือที่ได้รับไปนั้นก็ทำให้ปัญหาหลังคารั่วซึมของบ้านนั้นดีขึ้น
ป้าดรยังเล่าทิ้งท้ายไว้อีกว่า ในช่วงแรกๆ นั้นไม่มีชาวบ้านเชื่อเรื่องโครงการบ้านพอเพียงเลยว่าจะทำได้ มีแต่คนคิดว่าป้าดรจะไปเอาเงินจากไหนมาทำให้ โกงเขามารึเปล่า แต่เมื่อป้าดรลงมือทำจริง เป็นผลจริงชาวบ้านก็เริ่มเชื่อใจ โดยมีการเล่ากันปากต่อปาก “เพราะทำเต็มที่ เขาถึงเชื่อใจ เล่ากันปากต่อปาก”