ตำบลบางตลาด อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ลุ่ม มีแม่น้ำล้อมรอบ ในอดีตเป็นแหล่งอยู่อาศัยของคนไทยและคนมอญ และเป็นย่านการค้าริมน้ำ จึงเรียกว่า “บางตลาด” ปัจจุบันมี 7 หมู่บ้าน ประชากรประมาณ 2,200 คน จำนวน 765 ครัวเรือน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำสวนมะพร้าว มะม่วง ทำนา เลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา และรับจ้างทั่วไป
นางวรรณา เรืองปราชญ์ ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลบางตลาด เล่าความเป็นมาของโครงการบ้านพอเพียงชนบทตำบลบางตลาดว่า ในตำบลมีครอบครัวที่มีฐานะยากจน สภาพบ้านเรือนทรุดโทรมผุพังเป็นจำนวนมาก เมื่อทางสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) มีโครงการบ้านพอเพียงชนบท เพื่อสนับสนุนการซ่อมสร้างบ้านเรือนที่มีฐานะยากจน แกนนำในตำบลจึงได้ปรึกษาหารือกัน และร่วมกันจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนตำบลบางตลาดขึ้นมาในเดือนพฤษภาคม 2560 เพื่อดำเนินโครงการ โดยมีสมาชิกสภาฯ ทั้งหมด 24 คน มาจากตัวแทนกลุ่มต่างๆ และผู้นำในแต่ละหมู่บ้าน หลังจากนั้นจึงมีการจัดตั้งคณะกรรมการบ้านพอเพียงขึ้นมา
ส่วนการดำเนินการนั้น ประธานสภาองค์กรชุมชนฯ เล่าว่า คณะกรรมการบ้านพอเพียงซึ่งมีตนเป็นประธานโครงการ มีสมาชิกจากสภาองค์กรชุมชนเป็นคณะกรรมการร่วม ได้ร่วมกันสำรวจข้อมูลครัวเรือนผู้เดือดร้อน โดยให้คณะกรรมการที่เป็นตัวแทนจากหมู่บ้านต่างๆ สำรวจข้อมูลในหมู่บ้านของตน เพื่อรวบรวมข้อมูลนำมาเสนอต่อคณะกรรมการ และพบว่า มีครัวเรือนที่เดือดร้อนต้องการซ่อมแซมบ้านรวม 54 หลัง ซึ่งเกินงบประมาณที่จะได้รับสนับสนุนในปี 2561 จำนวน 17 หลัง งบสนับสนุนหลังละ 18,000 บาท คณะกรรมการจึงต้องประเมินร่วมกันเพื่อซ่อมแซมครัวเรือนที่เดือดร้อนมากที่สุดก่อน
นอกจากนี้เพื่อให้เกิดกองทุนหมุนเวียนนำไปช่วยเหลือผู้เดือดร้อนรายต่อไป คณะกรรมการฯ ได้กำหนด ให้ผู้ได้รับการสนับสนุนซ่อมแซมบ้าน เมื่อซ่อมบ้านเสร็จแล้วจะต้องชำระเงินคืนเดือนละ 300 บาท ระยะเวลาชำระคืน 5 ปี และต้องฝากเงินเข้ากลุ่มออมทรัพย์อีก 30 บาทเพื่อให้มีเงินสะสมเป็นของตัวเอง โดยผู้ที่ได้รับการสนับสนุนการซ่อมบ้านจะต้องทำสัญญากู้ยืมเงิน และมีผู้เดือดร้อนรายอื่นเป็นคนค้ำประกันเพื่อรับผิดชอบร่วมกัน
“หลังจากนั้นคณะกรรมการฯ จะเป็นผู้ประเมินรายการวัสดุที่ต้องซื้อ โดยจะใช้ร้านค้าวัสดุก่อสร้างในตำบลมาเปรียบเทียบราคา เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกที่สุด ส่วนการซ่อมแซมบ้านผู้ที่ได้รับการสนับสนุนจะต้องจัดหาช่างและแรงงานมาเอง ระยะเวลาซ่อม 1 เดือน เมื่อครบกำหนดคณะกรรมการจะมาตรวจสอบงานและเก็บข้อมูลเพื่อนำเสนอต่อไป” ประธานสภาองค์กรชุมชนฯ บอกถึงขั้นตอนการดำเนินงานบ้านพอเพียงชนบทตำบลบางตลาด
ในปี 2561 โครงการบ้านพอเพียงชนบทตำบลบางตลาดได้สนับสนุนการซ่อมบ้านไปแล้วรวม 17 ครัวเรือน ต่อมาในปี 2562 ได้รับงบประมาณสนับสนุนบ้านอีก 6 หลัง และทางกองทุนออมทรัพย์ชุมชนได้สนับสนุนเพิ่มอีก 1 หลัง รวมซ่อมแซมไปแล้ว 24 หลัง
ตัวอย่างบ้านที่ได้รับการช่วยเหลือ
นางกาญจนา ผ่องสะอาด บ้านเลขที่ 71 หมู่ที่ 5 ตำบลบางตลาด เล่าว่า สภาพบ้านเดิมชำรุดทรุดโทรมเสียหายหนัก หลังคาสังกะสีเก่าผุผัง เสาบ้านที่เป็นไม้ก็โดนปลวกกัดจนผุ เมื่อมีโครงการนี้จึงให้ช่างสำรวจ แต่บ้านชำรุดเกินกว่าจะซ่อมแซมแล้ว ช่างจึงได้รื้อบ้าน ลงเสาเข็มใหม่ พร้อมทั้งเปลี่ยนหลังคา แต่ยังซ่อมไม่เสร็จเพราะงบประมาณที่ได้รับ 18,000 บาทไม่พอ ยังขาดฝาบ้านทั้ง 4 ด้าน ตอนนี้ต้องอาศัยอยู่กับญาติข้างบ้านไปก่อน และกำลังเก็บเงินเพื่อต่อเติมเพิ่มเติมในส่วนที่เหลือต่อไป
นายสมชาย พิชัยศักดิ์ บ้านเลขที่ 114/1 หมู่ที่ 1 ตำบลบางตลาด เล่าว่า บ้านของตนสภาพเดิมเป็นไม้ หลังคาสังกะสี ปลูกสร้างมานานจนเสาไม้โดนปลวกทำลาย หลังคาก็ผุพังตามกาลเวลา เมื่อเข้าหน้าฝน น้ำฝนจะไหลตามรูรั่วของหลังคาลงมา ถ้ามีลมแรง หลังคาก็จะสั่นไปทั้งหลัง เมื่อมีโครงการบ้านพอเพียงเข้ามาจึงได้เปลี่ยนหลังคาและเสาบ้านใหม่ แต่ก็ยังขาดฝาบ้านบางส่วน ก็จะซ่อมแซมไปเรื่อยๆ ตามกำลังเงินที่มี แต่ก็ดีกว่าเดิมเพราะไม่ต้องนอนตากฝน และไม่ต้องกลัวว่าหลังคาจะปลิวเมื่อมีลมพายุ
นางวรรณา ประธานสภาองค์กรชุมชน กล่าวว่า ตอนนี้ได้สนับสนุนการซ่อมแซมบ้านในตำบลไปแล้วรวม 24 หลัง แต่ก็ยังมีครอบครัวที่บ้านชำรุดทรุดโทรมอีกหลายหลังที่ยังไม่ได้ซ่อมแซม ดังนั้นในระยะยาวจะต้องบริหารกองทุนโครงการบ้านพอเพียงเพื่อให้สามารถหมุนเวียนมาช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนรายอื่นต่อไป โดยขณะนี้มีเงินกองทุนอยู่ประมาณ 30,000 บาท
“นอกจากนี้จะต้องส่งเสริมคนในชุมชนให้เข้าร่วมกลุ่มออมทรัพย์ชุมชน เพื่อให้มีกองทุนสำหรับช่วยเหลือพี่น้องในชุมชนได้อย่างยั่งยืน และอยากให้ทาง พอช. จัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งให้แก่คณะทำงาน เพราะการลงสำรวจข้อมูลและจัดทำเอกสารต้องใช้เวลานาน ต้องลงสำรวจไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งต่อหลัง ทำให้คณะทำงานมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย” ประธานสภาฯ กล่าวทิ้งท้าย