เรียบเรียงโดย จรรยา กลัดล้อม นักสื่อสารจัดการความรู้จังหวัดชัยนาท
เสียงกี่ทอผ้าดังกระทบกับเส้นด้าย บ่งบอกถึงภูมิปัญญาของคนบ้านวังน้ำขาว ตำบลวังตะเคียน อำเภอหนองมะโมง จังหวัดชัยนาท กิจกรรมทอผ้าพบได้ทั่วไปในบริเวณบ้านวังน้ำขาว คุณยายปอย จันทร์ศรี วัย 83 ปี พักจากงานทอผ้ามาหันมาเล่าประวัติศาสตร์สำคัญของตำบลวังตะเคียนให้ฟังว่า สมัยที่คุณยายวัยสาวอายุประมาณ 21 ปีนั้น….“เสียงเรือบิน บินวนบริเวณหมู่บ้านช่วงกลางคืน เสียงเรือบินดังมาก” ช่วงเช้าได้ข่าวว่า นายกว้าง ก๊กศรี และชาวบ้านได้จับตัวคนที่กระโดดร่มลงบริเวณทุ่งนาดีไว้ได้ ชาวบ้านคิดว่าเป็นสายลับ เพราะอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนที่จับอาจารย์ป๋วยได้ เจ้าหน้าที่เอาปืนจ่อหลังแล้วขึ้นนกเตรียมลั่นไกจะยิง “ลุงทำ ปานแก้ว” ไปขวางไว้เตือนเจ้าหน้าที่และชาวบ้านว่าไม่ใช่หน้าที่ที่จะไปตัดสิน เรามีหน้าที่จับคนได้แล้วส่งทางการ จากนั้นชาวบ้านก็พาอาจารย์ป๋วยขึ้นเกวียน นำมาล่ามโซ่มัดกับต้นเสาไว้บนศาลาวัดวังน้ำขาว เยี่ยง นักโทษเป็นเวลาหลายวัน โดยมีแม่เฒ่าผา และป้าจุฬา คอยส่งข้าวส่งน้ำให้อาจารย์ป๋วย ช่วงที่ถูกจับก่อนที่จะถูกนำตัวไปส่งทางการ ต่อมาได้รู้ว่าผู้ที่คนตำบลวังน้ำขาวช่วยชีวิตไว้ ได้รับตำแหน่งผู้ว่าการแบงก์ชาติ และอาจารย์ป๋วยได้กลับมาชัยนาทเพื่อมาหาลุงคนที่ช่วยชีวิตไว้ ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญของตำบลวังตะเคียน เป็นที่มาของบุคคลสำคัญ คือ อาจารย์ป๋วย อึ้งภากรณ์
นางสาวสุธน กรองใจ ประธานกองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลวังตะเคียน กล่าวว่า คนตำบลวังตะเคียน ได้นำแนวคิด ของ อาจารย์ป๋วย อึ้งภากรณ์ จากครรภ์มารดา ถึงเชิงตะกอน มาดำเนินงานโดยจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชน “กองบุญ” คิดว่า จะทำอย่างไรให้ประชาชนมีหลักประกันสุขภาพตั้งแต่จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน ให้เขามีอาชีพ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี กองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลวังตะเคียน ได้มีการก่อตั้งเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2549 จากแกนนำของกลุ่มสตรี เพื่อการช่วยเหลือเกื้อกูลกันให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สมาชิกแรกตั้งจำนวน 110 คน ปัจจุบันสมาชิกจำนวน 1,122 คน จากประชากรทั้งตำบล 6,627 คน มีเงินทุน 3,168,602.85 บาท มีการจัดสวัสดิการให้กับสมาชิก 11 ประเภท และกองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลวังตะเคียนได้ของบประมาณสมทบจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) จำนวน 4 รอบ เป็นจำนวนเงิน 386,010 บาท
จากการดำเนินงานกองทุนสวัสดิการชุมชนฯ ได้มีการจัดสวัสดิการให้กับสมาชิกตั้งแต่เกิด จนถึงเสียชีวิตให้ความสำคัญเรื่องอาชีพและรายได้ของประชาชน จากข้อมูลพบว่าตำบลวังตะเคียนมีพื้นที่ทำนานอกเขตชลประทาน บ่อยครั้งพบกับสภาวะแห้งแล้ง น้ำท่วม หรือราคาข้าวตกต่ำ จึงได้มีการจัดสวัสดิการในการพัฒนาอาชีพ โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นทำให้สมาชิกให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ทำไม้กวาดดอกหญ้า จากวัตถุดิบที่มีอยู่มากในชุมชน เช่น ดอกหญ้า ไม้โมกมัน และไม้ไผ่ เป็นต้น ทำให้แข็งแรง คงทน
ช่วงแรกสมาชิกและประชาชนที่สนใจทำไว้ใช้เองในครัวเรือนเพื่อลดรายจ่าย ต่อมาได้มีการพัฒนาฝีมือ ทำให้มีความสวยงามและมีความแข็งแรง มีคุณภาพ ได้เริ่มจำหน่ายให้กับหมู่บ้านใกล้เคียง
นางสาวสุธน กรองใจ ประธานกองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลวังตะเคียน กล่าวว่า “สภาพพื้นที่ตำบลวังตะเคียน มีพื้นที่ทำการเกษตรอยู่นอกเขตชลประทาน ผลผลิตที่ได้มีราคาตกต่ำ จึงต้องหารายได้เสริมจากการทำนา” สมาชิกร่วมกันปรึกษาหารือก่อนลงมติทำไม้กวาดเป็นกิจกรรมหลัก เนื่องจากมีองค์ความรู้อยู่แล้ว แต่เดิมได้ใช้ไม้หวายสำหรับถักร้อยแต่ปัจจุบันหายาก จึงต้องใช้ปอพลาสติกแทน ซึ่งได้คุณภาพเหมือนกันเพียงแต่เป็นวัสดุที่ต้องสั่งซื้อจากตลาด ด้านการบริหารจัดการกลุ่มและการตลาด ได้จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนกลุ่มไม้กวาดดอกหญ้าบ้านทุ่งวัวแดง กับสำนักงานเกษตรอำเภอหนองมะโมง เมื่อปี 2556 ปัจจุบันมีสมาชิก 131 คน สมาชิกจ่ายเงินหุ้นๆ ละ100 บาท/ปี
กองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลวังตะเคียน ได้หนุนเสริมการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัย ทำให้สมาชิกมีเงินทุนเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี สมาชิกในครอบครัวให้การช่วยเหลืองานทักษะง่ายๆ เช่น การคัดแยกก้านแขนงออกจากก้านช่อดอก เพื่อให้ไม้กวาดที่มีความคงทน เพราะถ้าใช้ก้านใหญ่ถึงแม้ว่าไม้กวาดจะแผ่กว้างแต่ก้านจะหักง่าย เด็กเล็กๆ ในครอบครัวจะช่วยกันหักออกมาเรียงให้สม่ำเสมอตามที่ต้องการ ก่อนที่ผู้ใหญ่จะนำมาถักร้อย สมาชิกจะนำมานั่งล้อมวงทำไม้กวาด ได้เพื่อนพูดคุยสนุกสนานในบริเวณบ้านใกล้เคียง พร้อมกับการเลี้ยงดูลูกหลานหรือผู้สูงอายุ ถือเป็นการหารายได้และสร้างความอบอุ่นให้แก่ครอบครัว
การทำไม้กวาดจะต้องประณีตและจัดหาวัสดุที่มีคุณภาพ สมาชิกมีความสามารถในทำไม้กวาดได้ประมาณ 1,000 ด้าม/เดือน แต่การผลิตนั้นจะขึ้นอยู่กับการสั่งซื้อจึงผลิตได้ไม่มากนัก สมาชิกจะทยอยทำไม้กวาดในกรณีที่มีวัสดุพร้อม บางคนทำได้คล่องจะสามารถทำได้ 10 ด้าม/วัน ทำให้สมาชิกมีรายได้เดือนละ 3,000 บาท ต่อคน
การพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ทั้งรูปแบบและบรรจุภัณฑ์ ซึ่งไม้กวาดดอกหญ้ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เพียงคุณภาพที่ยอดเยี่ยม เน้นความสวยงามและทนทานแล้ว ด้ามไม้โมกมันมีความเบาเหนียวมีขนาดเหมาะมือ ส่งผลให้สมาชิกมีเงินสำหรับจุนเจือครอบครัว ทั้งค่าอาหาร ขนมให้ลูก และค่าครองชีพบางส่วนนี้มาจากไม้กวาดดอกหญ้า ถึงแม้ไม่ร่ำรวยแต่ก็ผ่านวิกฤตมาได้ด้วยสองมือที่ถักร้อยไม้กวาดด้วยใจรักในอาชีพเสริมที่เป็นมรดกของบรรพบุรุษให้มาเพื่อความเป็นอยู่อย่างพอเพียง
จากการดำเนินงานทำให้ไม้กวาดดอกหญ้าบ้านทุ่งวัวแดง ตำบลวังตะเคียนเป็นที่รู้จักทั่วไป สำนักงานพัฒนาชุมชนได้ให้ไปออกงานเพิ่มช่องทางการตลาดที่ เมืองทองธานี และสถานที่ราชการที่มีการจัดแสดงสินค้า และไม้กวาดดอกหญ้า ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน จากสำนักงานอุตสาหกรรม และได้รับรางวัลการคัดสรรผลิตภัณฑ์ OTOP และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ผลของการจัดสวัสดิการชุมชนของกองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลวังตะเคียน เริ่มจากประวัติศาสตร์ท้องถิ่นนำไปสู่การจัดสวัสดิการที่สามารถส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ ภูมิปัญญาที่มีอยู่ทำให้ประชาชนมีอาชีพและมีรายได้ รวมทั้งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
หมายเหตุ : ผู้ประสานงาน : นางสาวสุธน กรองใจ
ประธานกองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลวังตะเคียน
โทร. 089-9075126