ตำบลเขาคราม อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 1,170 ครัวเรือน ประชากร 11,236 คน ในจำนวนนี้แบ่งออกเป็น กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 1,031 คน หรือประมาณร้อยละ 9.8 ของประชากรทั้งหมด และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ จะก้าวสู้ความสูงวัยในอนาคตอันไกลจากการดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพของเครือข่ายจิตอาสา กลุ่ม อพม. อสม. ประจำชุมชนยังพบว่าปัจจุบันตำบลเขาคราม ผู้สูงวัยกำลังเผชิญกับปัญหาด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิต ทั้งความเจ็บป่วยด้วยโรคภัยต่างๆ ที่มีแนวโน้มจะมีเผ่ยมากขึ้น ปัญหาขาดการดูแลจากสมาชิกในครอบครัวเนื่องจากคนในครอบครัวต่างก็มีภาระในการทำมาหากินตลอดจนขาดการยอมรับและมีส่วนร่วมกับกิจกรรมของชุมชน จากสถานการณ์ปัญหาทั้ง 3 ประการดังกล่าว ทำให้ผู้สูงอายุมีแนวโน้มเจ็บป่วยมากและเร็วขึ้น การขาดการดำเนินชีวิตในครอบครัวและชุมชนอย่างมีศักดิ์ศรี
เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวสภาองค์กรชุมชนและกองทุนสวัสดิการชุมชน ตำบลเขาครามจึงได้มีการทำโครงการพัฒนาส่งเสริมสุขภาวะผู้สูงอายุตำบลเขาครามขึ้นโดยมีการสร้างอาสาสมัครสร้างเสริมสุขภาพในกลุ่มสตรีแม่บ้านและบุตรหลาน ให้และเพียงพอต่อการให้บริการที่มีคุณภาพและ ทั่วถึงแก่ผู้สูงอายุ มี การสร้างเสริมสุขภาพอย่างง่ายๆ ด้วยการโภชนาการที่ประหยัด มีคุณค่าและเหมาะสมต่อวัย การส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยค้นหาและพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น และที่สำคัญ คือการมุ่งลดความเจ็บป่วยในกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้เตรียมสู่วัยสูงอายุด้วยกิจกรรมที่ต่อเนื่อง เป็นรูปธรรมและถูกต้องโดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน เพิ่มบทบาทการพึ่งพาและช่วยเหลือกันในกลุ่มผู้สูงอายุด้วยกัน การส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพจิต สภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัย การถ่ายทอดภูมิปัญญา เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลและส่งเสริมอาชีพที่ครบวงจรสามารถพึ่งตนเองและดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม รายได้แนวคิดการำงานเสริมพลังผู้สูงอายุ สานพลังชุมชน
ที่ผ่านมาได้มีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยการดูแลความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุ มีบ้านพักผู้สูงอายุในมัสยิดจำนวน 10 หลัง สร้างจากเงินบริจาคจำนวน 1,200,000 บาท ซึ่งรับเงินบริจาคจากสมาชิกในชุมชนครัวเรือนละ 200 บาท บางครัวเรือนมีฐานะดีก็บริจาคจำนวนมาก จนสามารถรวบรวมเงินได้แต่ยังขาดเงินอีกประมาณ 400,000 บาทเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้าน ทางชุมชนจึงร่วมกันจัดงานเลี้ยงน้ำชาขึ้นเพื่อหารายได้สมทบการสร้างบ้าน 10 หลังดังกล่าว สุดท้ายได้เงินจากการจัดงานน้ำชา 600,000 บาท นำไปจ่ายผู้รับเหมาครบ 1.2 ล้านบาท เงินส่วนที่เหลือนำเข้ากองทุนมัสยิดของชุมชน
สูงอายุที่ได้เข้าพักในบ้านพักผู้สูงอายุในมัสยิดจำนวน 10 หลังนี้ ได้แก่ผู้สูงอายุที่ไม่มีบุตรหลานหรือบางคนมีบุตรหลานแต่ไม่ได้พักอาศัยอยู่รวมกันโดยบุตรหลานจะมาหาและทำอาหารกินร่วมกันตามโอกาส ผู้สูงอายุที่มาอยู่บ้านพักนี้มาอยู่โดยความสมัครใจ ไม่รู้สึกเหงาเพราะได้ทำกิจกรรมร่วมกับผู้สูงอายุคนอื่นๆ
ในการดำเนินงานมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานชมรมผู้สูงอายุตำบลเขาคราม ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ใช้ระบบการทำงานแบ่ง กลุ่มบ้าน/คุ้มบ้าน/โซน ส่งเสริมการดูแลสุขภาวะ กาย ใจ ของผู้สูงอายุ และการเชื่อมโยงภาคีท้องถิ่น /รพ.สต. โดยมีการจัดระบบฐานข้อมูลของผู้สูงอายุในพื้นที่ โดยการจัดทำข้อมูลสารสนเทศผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส

สิ่งที่ชุมชนต้องการดำเนินการในระยะต่อไป คือ การพัฒนาที่อยู่อาศัย/สถานที่ ปรับปรุง เพื่อรองรับผู้สูงอายุ โดยรัฐและภาคีต้องหนุนเสริมเรื่องสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุอย่างจริงจัง เพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุ เช่น ซ่อมห้องน้ำให้ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ ในบ้านมีราวจับในจุดที่เสี่ยง ฯลฯ ส่งเสริมการเชื่อมโยงเครือข่ายดูแลผู้สูงอายุ ไม่แยกส่วนกันทำงาน เน้นเป้าหมายผู้สูงอายุเป็นสำคัญ
นอกจากการร่วมมือสานพลังของคนในชุมชนเขาครามแล้วที่ผ่านมา พมจ.กระบี่ ก็เข้ามาหนุนเสริมอย่างต่อเนื่อง เช่น สนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้สูงอายุในจังหวัด สุพรรณบุรี ตลอดจนสนับสนุนกิจกรรมอื่นๆ ที่จะทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพกายและมีจิตใจที่เข้มแข็ง การจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุ ระดับจังหวัด
ทั้งหมดที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 ซึ่งงานมีความคืบหน้าไปด้วยดี เพราะมีสภาองค์กรชุมชนตำบล ซึ่งมีฐานกลุ่มจดแจ้งครอบคลุมทั้งตำบล ถึง 63 กลุ่ม รวมทั้งมกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลที่ปัจจุบันมีเงินกองทุนอยู่กว่า 5 ล้านบาท มีการจ่ายสวัสดิการให้กับสมาชิกที่เป็นผู้สูงอายุให้ดีขึ้น เป็นคนที่มีคุณค่าของชุมชนตลอดไป
แต่ที่สำคัญไปกว่าขึ้นกิจกรรมทั้งหมดที่เกิดจากการสานพลังของชุมชน และภาคีพัฒนาทั้งภาครัฐและเอกชน จะเป็นต้นทุนที่สำคัญในการรองรับสถานการณ์สังคมผู้สูงวัยที่จะก้าวมาถึงคนเขาครามในอีกไม่นาน และเมื่อถึงวันนั้น เชื่อว่าคนเขาคราม จะสามารถสร้างสังคมผู้สูงวัยที่เข้มแข็งได้