กรุงเทพมหานคร : วันนี้ (24 ธ.ค. 2568) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. โดยสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยเมืองและชนบท จัดประชุมทำความเข้าใจกรอบเกณฑ์แนวทางในการสนับสนุนพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อฟื้นฟูคุณภาพชีวิตและที่อยู่อาศัยให้กับชุมชนที่ได้รับผลกระทบ โดยมีนางสาวเฉลิมศรี ระดากูล รองผู้อำนวยการเป็นประธาน พร้อมทั้งเครือข่ายขบวนองค์กรชุมชน 5 ภาค เครือข่ายริมราง สลัม 4 ภาค และภาคประชุมสังคม เจ้าหน้าที่สำนักงานภาค 5 ภาค สำนักพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมราง สำนักการเงิน เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom กว่า 70 คน
ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงปลายปี 2568 ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบกับภัยพิบัติที่มีความรุนแรง ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั่วทุกภูมิภาค ทั้งเรื่องสถานการณ์ชายแดนประเทศไทย – กันพูชา ที่มีการปะทะกันหลายพื้นที่ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก รวมถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ซึ่ง 2 สถานการณ์ล้วนส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก จากรายงานล่าสุดของขบวนองค์กรชุมชนที่ขับเคลื่อนงานในพื้นที่ ภาพรวมความเสียหายพบว่าพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็น 2 ส่วนหลัก ดังนี้ 1) ภัยพิบัติน้ำท่วม ใน 24 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 10 จังหวัด ภาคกลางและตะวันตก 5 จังหวัด และภาคใต้ 9 จังหวัด มีผู้ได้รับผลกระทบ 811,709 ครัวเรือน 2) ภัยจากการสู้รบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบใน 2 ภาค 7 จังหวัด ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด และภาคกรุงเทพฯ ปริมณฑล และตะวันออก 3 จังหวัด มีผู้ได้รับผลกระทบ 187,133 ครัวเรือน
ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการประชุมร่วมระหว่าง พอช. เครือข่ายองค์กรชุมชน ภาคีที่เกี่ยวข้องทั้งในพื้นที่ และกลไกกลางที่เกี่ยวข้อง พบว่า แม้มีหลายหน่วยงาน/องค์กรลงพื้นที่ช่วยเหลือตามภารกิจของหน่วยงาน แต่ยังไม่เพียงพอและไม่ได้นำไปสู่การมีกลไกช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเร่งด่วน รวมไปถึงแผนและแนวทางในการฟื้นฟูอย่างเป็นระบบทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ในการจัดการภัยพิบัติโดยขบวนองค์กรชุมชนอย่างตรงจุด ชุมชนเป็นเจ้าของและหุ้นส่วนสำคัญในการพัฒนา จึงนำมาสู่มาตรการความช่วยเหลือของสถาบันฯ ในเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้มีการหารือยกร่างกรอบเกณฑ์การสนับสนุนงบประมาณ ร่วมกันระหว่างเครือข่ายขบวนองค์กรชุมชน ภาคีร่วมพัฒนา และ พอช.ก่อนที่จะนำเสนอต่อกลไกคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 คณะอนุกรรมการบ้านมั่นคงและการจัดการที่ดินได้มีมติเห็นชอบโครงการและงบประมาณดำเนินการดังกล่าว รวม 70 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณสนับสนุนช่วยเหลือกรณีภัยพิบัติธรรมชาติ อาทิ สนับสนุนที่อยู่อาศัยชั่วคราว การปรับปรุงที่อยู่อาศัยกรณีที่ยังไม่เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคง สนับสนุนฟื้นฟูบ้านมั่นคงเดิมที่ประสบภัยพิบัติ และสนับสนุนเตรียมความพร้อมสู่การพัฒนาที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ ยังเป็นงบประมาณสนับสนุนช่วยเหลือกรณีภัยพิบัติชายแดน และสนับสนุนกลไกเพื่อเชื่อมโยงขบวนในการวางแผนการจัดการภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากการประชุมดังกล่าว ได้มีการกำหนดร่วมกันให้เครือข่ายองค์กรชุมชนหรือคณะทำงานบ้านมั่นคงในพื้นที่เร่งจัดทำโครงการ เพื่อเสนอต่อกลไกที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับภูมิภาคและส่วนกลาง ก่อนนำเสนอคณะอนุกรรมการบ้านมั่นคงและการจัดการที่ดินพิจารณา โดยมีเงื่อนไขสำคัญ คือ ต้องดำเนินการพิจารณาโครงการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2569 เพื่อให้การช่วยเหลือถึงมือผู้เดือดร้อนอย่างรวดเร็ว













