
“กว่าเสาเอกจะลง ก่อนอิฐปูนจะก่อร่างสร้างเป็นกำแพง กว่ากระเบื้องจะบังแดดหลบลมฝน กว่าจะเสร็จจนได้บ้าน”
“บ้านมั่นคงสนามชัย” มีจุดเริ่มต้นมาจากการนางเพียงใจ ปริยัติฆรพันธ์ หนึ่งในผู้เดือดร้อนที่ถูกไล่ที่ ของวัดลาวทอง ตำบลสนามชัย อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลสนามชัย ได้เข้าร่วมเวทีประชุมของสภาองค์กรชุมชน ทำให้ได้รับรู้ข้อมูลในเรื่อง “บ้านมั่นคง” ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พวกเรามักเรียกกันสั้นๆ ว่า พอช. และมาบอกน้องสาวให้เข้าไปร่วมรับฟัง
ต่อมานางเพียงใจ ปริยัติฆรพันธ์ คณะกรรมการบ้านมั่นคงสนามชัย เล่าว่า “ในตอนแรก ได้รับรู้ข้อมูล “บ้านมั่นคง” จากผู้อื่นว่าเป็นโครงการที่สร้างบ้านเพื่อคนที่ไม่มีที่อยู่อาศัย เกิดความสงสัยว่าหากเป็นคนจนที่ยังมีแรง และต้องการมีบ้านเป็นของตนเอง จะทำได้จริงหรือไม่ จึงสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม พบว่าเป็นโครงการของพอช. สำหรับผู้เดือดร้อนที่มีความไม่มั่นคงในเรื่องที่อยู่อาศัย ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วม และขับเคลื่อนการทำงานอย่างชัดเจนในทุกขบวนการตั้งแต่เริ่มต้นจนจบโครงการ ภายใต้คำแนะนำการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ พอช.”
การดำเนินการขับเคลื่อนเรื่องที่อยู่อาศัย พอช. มุ่งเน้นให้ภาคประชาชนเข้ามามีบทบาทหลัก ในการให้เจ้าของปัญหาลุกขึ้นมาจัดการตนเอง หากกล่าวในมิติของการพัฒนาของประเทศไทยในปัจจุบันนั้น พบว่า มีหน่วยงานไม่มากนักที่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาในพื้นที่
นางสร้อยวสันต์ ปริยัติฆรพันธ์ (แม่เก) น้องสาวของนางเพียงใจ เมื่อได้รับทราบข้อมูล ได้ช่วยหาทางออกให้แก่ผู้เดือดร้อนที่อาศัยอยู่ในชุมชน ส่วนใหญ่เป็นผู้บุกรุกที่ดินสาธารณะ บุรุก/เช่าที่ดินวัดลาวทอง ที่ดินเอกชน และเป็นกลุ่มบ้านเช่า ครอบครัวขยาย จาก 6 หมู่บ้าน มีผู้เดือดร้อนประมาณ 240 ครัวเรือน ทำความเข้าใจกับคนในชุมชน ผู้เดือดร้อนมีความกระตือรือร้น ในการแก้ไขปัญหาของตัวเองกันมาก
มีการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ และเป็นสหกรณ์วัดลาวทอง จำกัด เมื่อปี 2556 ดำเนินโครงการบ้านมั่นคงและรับงบประมาณจาก พอช. โดยมีสมาชิกเริ่มแรกประมาณ 130 คน (ปัจจุบันเหลือ 86 คน เนื่องจากหมู่ที่ 1 ลาออกประมาณ 30 กว่าครัวเรือน) การดำเนินงานแต่ละขั้นตอน ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เพราะแกนนำขาดประสบการณ์การทำงานและจัดทำข้อมูล ทำให้ใช้เวลานานกว่าจะได้รับการอนุมัติ จนผู้เดือดร้อนบางส่วนขอลาออกจากการเป็นสมาชิก แต่ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ทำให้ได้รับการอนุมัติงบประมาณปี 2557
การก่อตั้งสหกรณ์วัดลาวทอง จำกัด มีเจตจำนงเพื่อให้สมาชิกซึ่งเป็นผู้เดือดร้อนได้ออมเงิน ตามระเบียบของพอช.ในการเสนอโครงการบ้านมั่นคง ใช้สินเชื่อเพื่อเป็นทุนในการปลูกสร้างบ้าน รวมถึงเป็นการแสดงเจตจำนงค์ของผู้เดือดร้อนว่ามีความพยายามและตั้งใจในการได้มาซึ่งบ้านที่ “มั่นคง”
“หลังจากการอนุมัติแล้วสหกรณ์ฯ ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของที่ดิน โดยขอเช่าที่ดินจากวัดลาวทอง มีกรม “พุทธศาสนา” มาช่วยดูแลเรื่องสัญญาเช่าที่จะทำกับทางวัด ขอเช่าทั้งหมด 12 ไร่ ระยะเวลา 3 ปี ภายหลังจากการดำเนินการขอเช่าที่ดินแล้ว ได้มีการวางแผนผังโครงการ จำนวนทั้งหมด 86 หลัง โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า และประโยชน์สูงสุด”
แต่ใช่ว่าปัญหาอุปสรรคจะหมดไป หลังจากที่ได้เซ็นสัญญาการใช้สินเชื่อจาก พอช. มีเงินโอนลงมาตามแผนงานต้องถมดินเป็นมูลค่า 1.5 ล้านบาท ซึ่งในขณะนั้นชาวบ้านยังไม่ได้รับสัญญาเช่าจากสำนักพระพุทธศาสนา ได้ปรึกษากับสำนักพระพุทธศาสนาซึ่งให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี และรับปากว่าหากมีปัญหาอะไรให้ชาวบ้านมาปรึกษาหารือได้ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นต่อโครงการบ้านมั่นคงและคนทำงานเป็นอย่างมาก แม่เกเล่าว่า “ทั้งผู้บริหารหน่วยงานท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไม่รู้จักโครงการบ้านมั่นคงมาก่อน จึงยากต่อการสร้างความน่าเชื่อถือ หน่วยงานท้องถิ่นกล่าวว่าสองพี่น้องโกหกหลอกลวงชาวบ้าน จนเกิดความท้อแต่ก็ทำงานต่อไปพิสูจน์ว่าบ้านมั่นคงมีจริง จนเกิดการยอมรับจากหน่วยงาน”
ทุกวันนี้ยังไม่อยากเชื่อเลยว่า “เราจะทำได้” เพราะ “ไม่มีความรู้เรื่องการก่อสร้างเลย แต่ได้รับคำแนะนำจากทีมช่าง พอช. ได้ที่ปรึกษาดี ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหากเป็นทีมช่างในโครงการบ้านมั่นคงกลุ่มจังหวัดประวัติศาสตร์ (อยุธยา อ่างทอง สุพรรณ) มาให้คำแนะนำเรื่องการก่อสร้าง และทีมสถาปนิก วิศวกร ของ พอช. ได้ร่วมกันออกแบบการก่อสร้าง บอกขั้นตอนรายละเอียด มีการตรวจงวดงานแต่ละงวดแล้วเบิกงบประมาณ มีการทำงานเป็นขั้นตอน ตรวจสอบง่าย ทำให้มือใหม่อย่างเราๆ ทำงานได้ง่ายขึ้น”



วันแรกที่ตอกเสาเข็ม “วันนั้นพวกเราได้เห็นรอยยิ้มของสมาชิก สายตาที่เขามองเราเงินแสนเงินล้านที่ได้รับมาเทียบไม่ได้ ในตอนที่จัดผังแบ่งแปลงที่ดิน สมาชิกมามาช่วยกันขุดเสาหินของตัวเอง พวกเขาดีใจที่จะมีที่ดินปลูกบ้าน วันนั้นเขาได้เห็นแล้วว่าบ้านเขาจะขึ้น (ปลูก) เป็นความรู้สึกที่ดี คนทำงานก็หายเหนื่อย”
มาวันนี้ บ้านมั่นคงสนามชัย ดำเนินการภายใต้สหกรณ์วัดลาวทองจำกัด ปลูกสร้างเสร็จ สมาชิกเข้าอยู่อาศัยแล้ว ด้วยงบสินเชื่อสนับสนุนการสร้างบ้านจาก พอช. ราว 260,000 บาท สมาชิกผ่อนส่งเดือนละ 1,800 บาท มีค่าเช่าที่ดินจากสำนักพระพุทธศาสนา เนื้อที่ประมาณ 35 – 50 ตร.ว. ราคาตารางวาละ 2 – 3 บาท รวมๆ แล้วปีละราวๆ 1,000 บาทต้นๆ “เมื่อเปรียบเทียบกับการเช่าบ้านเดี่ยวที่มีเนื้อที่ขนาดนี้ ตกประมาณ 3,500 – 4,000 บาทต่อเดือน หรือถ้าผ่อนส่งกับบ้านจัดสรรสูงกว่านี้หลายเท่าตัว ทำให้พวกเราประหยัดเงินไปได้มาก อาจกล่าวได้ว่าถ้าไม่ได้โครงการนี้ ชาวบ้านหลายคนหรือแม้แต่ตัวผู้เขียนเองก็ไม่มีบ้าน (ของตัวเอง) อยู่”
“บ้านมั่นคงทำให้สมาชิก ครอบครัวมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เมื่อจ่ายค่าบ้านถูก มีเงินเก็บเพิ่มขึ้น สามารถส่งลูกหลานได้เรียนสูงมากกว่าเดิม ตอนนี้มีหลายบ้านส่งลูกเรียนถึงระดับปริญญาตรี ปริญญาโ จากเทดิมที่จบเพียงแค่ชั้น ป.6 หรือมัธยม ดังเช่นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตัวเอง ซึ่งเดิมมีอาชีพขายอาหารตามตลาดนัด เมื่อก่อนต้องขับซาเล้งบรรทุกของไปขาย ปัจจุบันสามารถ “ถอย” กระบะมือสองมาวิ่งรับซื้อของเก่าได้ สามารถไปหาซื้อของ ขายของได้ไกลกว่าเดิม ทำให้มีรายได้เพิ่ม อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสทางการค้าได้มากขึ้น และลูกชายคนโตยังเรียนจบปริญญาตรี” คำกล่าวจากใจของแม่เก
เมื่อสร้างบ้านเสร็จหน้าที่ของคณะกรรมการก็ต้องดูแลสมาชิกต่อไป เช่น ดูแลเรื่องสินเชื่อ แล้วหาทางให้พวกเขามีเงินมาผ่อนบ้าน เรื่องของการส่งเสริมลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ซึ่งได้แนวความคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9



“ส่งเสริมสมาชิกปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ เลี้ยงไก่ไข่ เพราะนอกจากมีบ้านมั่นคงเป็นที่อยู่อาศัยแล้ว “เราต้องกินอิ่มนอนอุ่น” ดังนั้น เรื่องอาหารต้องมั่นคง จึงทำโครงการ “บ้านผลิตอาหาร” อยากกินพริกก็มีพริก อยากกินก็มีมะละกอ อีกทั้งยังมีมะม่วง มะรุม อยากกินไข่ไก่ก็ได้กิน โดยไม่ต้องไปซื้อ คิดว่าต้องพึ่งปัจจัยภายในให้มาก เพื่อให้เงินเหลือ จึงนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติร่วมกับสมาชิก จนสมาชิกปลูกผักทุกครัวเรือน”
“อันดับแรกบอกว่าต้องปลูกต้นกล้วยทุกหลัง เพราะว่าเป็นพืชที่ปลูกง่าย ใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ปลูกบ้านละต้น พอออกเครือเห็นผลิตผล ชวนกันคุยเรื่องกล้วย เช่น กล้วยลูกใหญ่จัง เอาพันธุ์จากไหน ขอพันธุ์หน่อย เมื่อเห็นผลผลิตจากกล้วย ก็ปลูกพืชชนิดอื่น นำมาสู่การปลูกผักสวนครัวในบริเวณบ้าน ชอบกินอะไรก็ให้ปลูกอย่างนั้น “ปลูกผักที่กิน กินผักที่ปลูก” เรื่องนี้ไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานใด เพราะมองว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว และเป็นเรื่องจำเป็น”
แม้ความเป็นมาของโครงการบ้านมั่นคงสนามชัย เดิมหลายๆ คนคิดว่าเป็นโครงการชวนฝัน ไม่มีทางประสบความสำเร็จ แต่ด้วยความแน่วแน่และความตั้งใจ ความร่วมมือของสมาชิกผู้เดือดร้อน แรงสนับสนุนจากหน่วยงานท้องถิ่น และแรงผลักดันจากพอช. ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมานั้น คือ ความสำเร็จ สามารถสร้างบ้านเพื่อผู้เดือดร้อนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยจำนวน 86 หลัง สำเร็จด้วยดี และยังต้องดำเนินการพัฒนาในหลายๆ เรื่องเพื่อสร้างชุมชนเข้มแข็ง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติต่อไป
ข้อมูล : นางสร้อยวสันต์ ปริยัติฆรพันธ์
ภาพ/เรียบเรียงข้อมูล นายนพพรรณ แก้วกาญจนสกุล







